[รีวิว]Oppenheimer
นี้ผลงานการกำกับของผู้กำกับ ที่คนไทยเรียกว่าเสด็จพ่อโนแลน การกลับมาทำภาพยนตร์อีกครั้งหลังจาก 3 ปีที่แล้ว การกลับมาในครั้งนี้น่าสนใจเพราะว่าเขาได้นักแสดงนำอย่างคิลเลี่ยนเมอร์ฟี่ มารับบทเป็นเจย์โรเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ความรู้สึกหลังจากที่ดูแล้ว รีวิวสไตล์บ้านๆนะผมก็ออกตัวได้ว่าจริงๆแล้วเนี่ย ผมชอบผลงานชอง คริสโตเฟอร์ โนแลน นะก็มีบางเรื่องที่ชอบมากๆชอบน้อย เรื่องนี้ผมบอกก่อนเลยว่าถ้าให้ผมวิจารณ์นะสำหรับผมแล้วเนี่ยถือว่าดูง่าย การเล่าเรื่องเนี่ยมันไม่ได้งง เพราะว่าเป็นหนังชีวประวัติแต่ก็มันก็ยังมีความเป็นกลิ่นอายของ คริสโตเฟอร์ โนแลน อยู่เหมือนเดิมนะครับซึ่งเขาเนี่ยจะเอามานำเสนอในรูปแบบที่ไม่ได้เป็นเส้นตรงนะ ไม่ได้เรียงตั้งแต่ 1-100 ครับ จะเล่าสลับไทม์ไลน์กันไปมาไปมาเดี๋ยวอดีตเดี๋ยวปัจจุบันเดี๋ยวกึ่งกลางเดี๋ยวมีภาพเขาดำใส่เข้ามาสลับกันไปให้คนดูเนี่ยโอ้โหต้องคิดตามแล้วก็ขมวดปมในเรื่องเรียบเรียงเอาเองในสมองนะครับซึ่งจุดนี้เป็นลูกเล่นที่ยากนะ ถือว่าดูยากไหมถ้าสำหรับคนดูหนังเนี่ยผมว่าไม่ยากแต่ถ้าคนไม่ค่อยได้ดูแล้วเข้าไปดูเนี่ย คงจะบ่นกันไม่น้อยเหมือนกัน ถ้าใครไม่ได้รู้จักแนวหนังของโนแลน อะแต่ถือว่ายังแบบปราณีคนดู 3 ชั่วโมง
ในหนังเรื่องนี้เราจะได้พบชีวิตของ ออปเพนไฮเมอร์ เหมือนเราได้ไปสำรวจชีวิตของบิดาระเบิดปรมาณูคนนี้เลย ผู้สร้างประวัติศาสตร์แห่งวิทยาศาสตร์ และความรู้หลากหลายนะไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของวิทยาศาสตร์ มุมมองการเมืองสงครามความสัมพันธ์ ในเรื่องของเพื่อนเพื่อนทำงานแล้วก็ยังมีการใส่สวนคดีความอะไรกันด้วย ซึ่ง ออปเพนไฮเมอร์ ตอนหลังเนี่ยเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ อย่างนู้นอย่างนี้ใส่เข้ามาทำให้รู้สึกว่าโอ้โห 3 ชั่วโมงเนี่ยคือผมเนี่ยคุ้มค้ามาก ไม่อยากจะพลาดทุกการสนทนาของเรื่องนี้เลย
ในหนัง ออปเพนไฮเมอร์ นักแสดงนี่คุณภาพมาก ผมบอกเลยว่าเอาอยู่ทั้งเรื่อง แต่ฉากที่ทำให้ผมประทับใจมากๆ ของเรื่องนี้คือฉากที่ ออปเพนไฮเมอร์ ทดลองระเบิดครั้งแรกนั่นแหละก่อนจะเอาระเบิดเนี่ยไปใช้ที่ฮิโรชิม่านั่นแหละมีการทดลองกันกลางคืนแล้วแบบโอ้โหจังหวะนี้มันบีบนิ้วมากเลยนะ ทั้งๆที่เรารู้อยู่แล้วว่าระเบิดเนี่ยต้องทดลองสำเร็จแต่แบบด้วยความที่เป็น โนแลน เขาให้จังหวะที่แบบว่าพอระเบิดมันระเบิดใช่ไหมจังหวะนั้นน่ะมันเงียบสงัดครับผมเสียงเนี่ยไม่มีนะแล้วแบบมีติดเปลวไฟขึ้นมาโอ้โหน่ากลัวชิบหายมันรู้สึกเลยว่าโอ้โหหลังจากเอาระเบิดนี้ไปใช้แล้วเนี่ยต้องมีการแบบตายกันแบบเป็นหมื่นเป็นแสนคนอะไรอย่างนี้แน่นอนครับแล้วมันก็ปิ๊งสักพักนึงก่อนจะมีเสียงระเบิดตามมาตอนแรกก็เฮฮาเนี่ยนะแต่หลังจากนั้นผ่านไปนี้ก็เริ่มแบบรู้สึกคิดกันอะไรอย่างนี้ผมชอบมากเลยนะครับก็ประมาณ
นี้ใครคิดเห็นยังไงลองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเข้ามาดูนะครับโอเคไว้เจอกันใหม่กับรีวิวหนังเรื่องหน้านะครับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนสวัสดีครับ